Thursday, December 5, 2019

Q3/2562

ในความเห็นผมเรื่องการลงทุนในสภาพปัจจุบัน ผมเห็นว่าระดับของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปลงุทนอย่างอื่นอยู่ในช่วงที่น่าซื้อ ในขณะที่การฝากเงินหรือการซื้อพันธบัตรมีดอกเบี้ยไม่เกิน 3% แต่ผมเชื่อว่าหุ้นที่ได้เลือกไว้จะมีผลตอบแทนราวๆ 8% ขึ้นไป แต่ถ้าหากใครมีช่องทางการลงทุนที่ดีกว่าก็อื่นเรื่อง
ข้อมูลที่เขียนในวันนี้ก็จะสั้นถึงสั้นมาก เพราะใน email ฉบันก่อนๆนั้นได้ใส่ข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญไว้ดีแล้ว และหากนำมาต่อกันก็จะเข้าใจในกิจการมากขึ้น

SIS

อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมกับการลงทุน ระดับ ROE ที่เกิน 15% และราคาหุ้นไม่สูงมากหายากในตลาดหุ้นไทย



กราฟรายปีในปี 2562 เป็นข้อมูล 9 เดือน

TK


บริษัทยังคงขยายกิจการในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องทำให้การเติบโตในต่างประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่วนในประเทศยังคงมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจทำให้บริษัทชลอการปล่อยสินเชื่อเพื่อรักษาคุณภาพของลูกหนี้ ในปีหน้าจะมีการปรับมาตราฐานบัญชีใหม่คงต้องรอดูเรื่องการสำรองหนี้เสียซึ่งจะมีผลกระทบตอกำไร
กราฟรายปีในปี 2562 เป็นข้อมูล 9 เดือน

BLA


ในราคาที่ต่ำกว่า BV หุ้นจะให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่ดี แม้ว่าดอกเบี้ยจะต่ำ แต่การปรับตัวของธุรกิจประกันชีวิตก็ต้องทำกันทุกบริษัท และผลตอบแทนระดับ ROE ที่ต่ำกว่า 10% ก็คงไม่มีบริษัทไหนต้องการจะทำ ผลกระทบต่างๆไม่ใช่เกิดกับ BLA เจ้าเดียว ดังนั้นทุกๆบริษัทก็จะเน้นไปที่ความคุ้มครองมากกว่าที่จะเป็นการออมทรัพย์

กราฟรายปีในปี 2562 เป็นข้อมูล 9 เดือน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://100instock.blogspot.com/2019/11/q32562-bla.html

THRE


หุ้นรับประกันภัยต่อ บริษัทได้มีการขาดทุนในโครงการรับประกับใน1-3ปีที่ผ่านมาจำนวนพันกว่าล้านบาท ทำให้บริษัทเริ่มมีกำไรในปีนี้ และยังมีขาดทุนในโครงการดังกล่าาวในปีนี้อีก 130 ล้าบบาท มูลค่าซื้อขายกันที่ 0.71 เท่า(ในราคา 0.62บาท/หุ้น)
กราฟรายปีในปี 2562 เป็นข้อมูล 9 เดือน


STANLY


รายได้และกำไรทำ new high  รวมถึงเงินสดที่ยังมีเหลือถือ 3.5พันล้านบาท หรือ 40 บาทต่อหุ้น ทำให้บริษํทพร้อมที่จะรับมือกับขาลงของเศรษฐกิจได้ และบริษัทยังคงได้รับ order ใหม่ๆ แต่ก็ชดเชยกับภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีการลดกำลังการผลิตอย่างมาก
ดูเพิ่มเติม https://100instock.blogspot.com/2019/12/q32562-stanly.html
กราฟรายปีในปี 2562 เป็นข้อมูล 9 เดือน

IFS


หุ้นที่มีรายได้และกำไรเสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่าการซื้อราคาแถวๆ BV จะสร้างผลตอบแทนระยะยาวที่ดีกว่า 8% ตอปี



------------------------------------------------------------***
ผมขอแบะนำหุ้นจำนวนนี้ที่จะลงทุนเพิ่มเติมได้ หากเราไม่ลงทุนเงินสดก็ไม่ทำกำไร และในช่องนี้ผมเชื่อว่ากองทุนที่ลงทุนในประเทศก็ไม่ได้ผลตอบแทนดีอะไรเลย หากยอนหลังไป 5 ปีกองทุนในประเทศมีผลตอบแทนเฉลี่ยไม่เกิน 3% ต่อปีทบต้น แม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่กองทุนในประเทศทำได้ดีแต่การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบางตัวมันผิดปกติ โดยปกคิแล้วหากราคาหุ้นเพิ่มเกินกว่าผลประกอบการไปมากๆมันจะเป็นแบบนี้ไปอีกไม่ได้และสุดท้ายผลประกอบการคือตัวสำคัญในการลงทุน ดังนั้นกองทุนเหล่านี้ก็จะมีผลที่ขึ้นๆลงๆและผมเชื่อว่ากองทุนจะทำได้ใกล้กับผลตอบแทนของ index เท่านั้น

หากเราไปมุ้งเน้นที่ราคาหุ้นเกินไปก็จะทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของ "นายตลาด" ทั้งๆที่การลงทุนเราควรจะมองไปที่ผลประกอบการ และหุ้นที่ผมเลือกมาด้านบนก็มีผลประกอบการที่ดีและเหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป
ผลตอบแทนของ warren ที่วัดผลออกมาก็ใช้ BV ซึ่งกำไรนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของ BV ที่สะสมเข้าไปเรื่อยๆนั้นเอง เพราะ warren ซื้อและถือยาวในระดับ 10 ปีขึ้นไป หากหุ้นตัวไหนที่ผลประกอบการไม่ดีและมีทิศทางของกิจการที่แข่งขันไม่ได้เขาก็จะขายหุ้นออกไป ส่วนหุ้นที่ยังมีผลประกอบการที่ดีเขาก็จะเก็บเอาไว้ และเอาเงินปันผลมาซื้อหุ้นเพิ่มไปเรื่อยๆ นั้นคือแนวคิดการลงทุนที่แท้จริง หากเราหวังกับราคาหุ้นและยึดติดกับมันก็จะทำให้เราหลุดจากหลักการและสับสนเมื่อหุ้นที่ยังมีกำไรที่ดีมีราคาลดลงและความกลัวก็จะเขามาในจิตใจเรา หากราคาหุ้นลดลงนั้นก็จะเป็นการเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน


No comments:

Post a Comment